วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

แหล่งท่องเทียวอำเภอลานสัก

                                                                      เขื่อนทับเสลา
                                                             สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก
เขื่อนทับเสลา เป็นเขื่อนอเนกประสงค์เพื่อการชลประทานเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ สร้างปิดกั้นลำห้วยทับเสลาที่บ้านระบำ ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเรียกภาษาท้องถิ่นตามสถานที่สร้างว่า เขื่อนระบำ เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2528 และสร้างเสร็จ พ.ศ. 2531สามารถช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝนได้ประมาณ 143
,500 ไร่ และในฤดูแล้งได้ประมาณ 26,250 ไร่ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำทับเสลาและจังหวัดอุทัยธานี เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีภูมิประเทศสวยงาม มีทิวเขาที่ลดหลั่นโอบล้อมด้วยตัวอ่างเก็บน้ำเป็นแนวยาว จากสันเขื่อนสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่งดงาม ในยามเย็นจะเห็นภาพพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามมาก ในอ่างเก็บน้ำมีเกาะแก่งน้อยใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปท่องเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำตามเกาะต่างๆ ได้โดยการใช้บริการเรือหางยาวของชาวประมงท้องถิ่น
การเดินทาง: ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลระบำ จากอำเภอลานสัก ไปตามทางหลวงหมายเลข 3438 เป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ตรงหลักกิโลเมตรที่ 47 จะถึงทางแยกเข้าเขื่อนทับเสลา เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดชมวิว หากมาจากตัวเมืองทางเข้าจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ



                                                                          เขาปลาร้า
                                                                สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก
เป็นเขาที่แบ่งเขตหมู่บ้านห้วยโศก อำเภอลานสัก กับตำบลเขาบางแกรก อำเภอหนองฉาง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร เขาสูงประมาณ 598 เมตรเป็นเขาขนาดใหญ่ มีลักษณะสูงชันมาก สภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ต้องเดินเท้าและปีนเขา ระยะทาง 900 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงจะถึงยอดเขาและมองเห็นภูมิประเทศที่สวยงาม ข้างบนเป็นที่ราบขนาดใหญ่และมีสภาพเป็นป่ามีไม้ใหญ่ เช่น ไม้มะค่า หน้าผาด้านตะวันตกที่ระดับความสูง 320 เมตร พบภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์อายุประมาณ 3
,000 ปี เป็นลายเส้นสีดำและสีแดง เส้นสีดำค่อนข้างจางไปแล้ว ส่วนสีแดงยังเห็นได้อยู่ เขียนไว้ตลอดแนวยาวประมาณ 9 เมตร เขียนด้วยสีแดงมีกลุ่มภาพมนุษย์หลายแบบหลายลักษณะและกลุ่มภาพสัตว์ ภาพมีทั้งหมดประมาณ 40 ภาพ แสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตสังคมของคนยุคโบราณ ซึ่งเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุทัยธานี
การเดินทาง :จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 333 ผ่านอำเภอหนองฉาง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3438 เข้าสู่สายหนองฉาง-ลานสัก อีกประมาณ 21.5 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางลาดยางอีกประมาณ 7.5 กิโลเมตร หากนั่งรถโดยสารประจำทาง (สายอุทัยธานี-ลานสัก) จากนั้นต่อรถจากลานสักมาที่แยกห้วยโศก แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า
เปิดให้เข้าชม : 08.00 - 18.00 น.
เขาพระยาพายเรือ

                                                                สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก
ตั้งอยู่ที่ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 60 กิโลเมตร เมื่อมองจากระยะไกลจะแลดูคล้ายเรือสำเภาลำหนึ่ง บนยอดเขามีจุดชมทิวทัศน์ ภายในเขาพระยาพายเรือประกอบด้วยถ้ำเล็ก ๆ เชื่อมต่อกัน ได้แก่ ถ้ำแก้ว ถ้ำสีชมพู ถ้ำท้องพระโรง ถ้ำอ่างน้ำมนต์ และถ้ำพุทธสถาน ภายในถ้ำซับซ้อนมากจึงต้องมีป้ายบอกทางและมีไฟฟ้า เพื่อความสะดวกในการเที่ยวชมความงามของหินงอกหินย้อย ตอนบนของถ้ำมีพระนอนขนาดใหญ่ ส่วนทางเข้าถ้ำต่าง ๆ นั้นอยู่ทางด้านซ้ายมือซึ่งมีทางเข้าทางเดียว เป็นทางลึกถึงข้างล่างและมีบันไดลงไปได้ถึงก้นถ้ำ





                                                                    ถ้ำเขาฆ้องชัย
                                                            สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก
เป็นเทือกเขาอยู่ในตำบลลานสัก มีความสูงประมาณ 353 เมตร ทางด้านหน้าของเขาฆ้องชัยเป็นถ้ำตื้นกว้างเหมือนอุโมงค์ใหญ่ เข้าใจว่าเดิมมีมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์อาศัยอยู่ เพราะตามหลักฐานที่พบเป็นเครื่องมือหินและเศษภาชนะดินเผา ภายในถ้ำมีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ในเวลาเย็นจะเห็นฝูงค้างคาวบินออกมาหากินนานนับชั่วโมง และถ้าสามารถปีนหน้าผาสูงไปได้จะพบถ้ำอยู่ทางด้านบน อาธิ ถ้ำธงชัย ถ้ำมหาสมบัติ ถ้ำเป็ด และถ้ำลม ใกล้กันเป็นที่ตั้งของเขาอีกลูกหนึ่งซึ่งมีถ้ำสวยงามอีกเช่นกัน บริเวณตรงกลางเป็นบริเวณที่ดินในหุบเขามีเนื้อที่กว้างขวางมาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดและโรงเรียนลานสักวิทยา
การเดินทาง :จากอำเภอเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 333 ผ่านอำเภอหนองฉาง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3438 สายหนองฉาง-ลานสัก และก่อนถึงอำเภอลานสักประมาณ 2 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือเข้าโรงเรียนลานสักวิทยา และไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงเขาฆ้องชัย ระยะทางห่างจากตัวเมืองประมาณ 52.4 กิโลเมตร
เปิดให้เข้าชม: 08.30 17.30 น.
ถ้ำหุบป่าตาด

                                                               สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก
ถ้ำนี้ถูกค้นพบโดยพระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปี พ.ศ. 2522 พระครูได้ปีนลงไปในหุบเขานี้ จึงพบว่ามีต้นตาดเต็มไปหมด (ต้นตาดเป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม) จึงเจาะถ้ำเพื่อเป็นทางเข้าในปี พ.ศ. 2527 ต่อมากรมป่าไม้ได้ประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์ เพราะที่นี่มีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แปลกและมีพันธุ์ไม้หายาก ถ้ำที่เป็นทางเดินเข้าหุบป่าตาดนั้นมืดสนิท แต่เดินไม่นานจะถึงบริเวณปล่องขนาดใหญ่ที่แสงส่องลงมาได้และจะพบป่าตาด ให้ความรู้สึกเหมือนว่าได้มาอยู่ในโลกยุคดึกดำบรรพอย่างแท้จริง นอกจากต้นตาดแล้วที่นี่ยังพบไม้หายากพันธุ์อื่นๆเช่น เต่าร้าง เปล้า คัดค้าวเล็ก เป็นต้น ในบริเวณหุบเขานี้มีลักษณะคล้ายป่าดงดิบและยังมีความชุ่มชื้นสูง แสงจะส่องถึงพื้นได้เฉพาะตอนเที่ยงวัน เพราะมีเขาหินปูนสูงชันล้อมรอบ มีความร่มรื่นเหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติเป็นอย่างมาก
การเดินทาง :จากอำเภอเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 333 ผ่านอำเภอหนองฉาง จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3438 สายหนองฉาง-ลานสัก และก่อนถึงอำเภอลานสักประมาณ 2 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายมือเข้าโรงเรียนลานสักวิทยา และไปอีกประมาณ 500 เมตร จะถึงเขาฆ้องชัย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 52.4 กิโลเมตร
เปิดให้เข้าชม: 06.00 17.00 น. 
  สวนป่าห้วยระบำ

                                                                 สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก
ตั้งอยู่ที่ตำบลระบำ ห่างจากตัวจังหวัด 78 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 11
,740 ไร่ เป็นสวนป่าปลูกของ บริษัท ไม้อัดไทย ปลูกไม้สัก และไม้ยูคา สนประดิพัทธ์ ผู้สนใจสามารถเข้าไปชมแปลงป่าที่ปลูกใหม่ได้ หากต้องการพักค้างคืน มีเรือนพักรับรอง (รองรับได้ประมาณ 30 คน) แต่ต้องเตรียมเสบียงไปเอง หน้าแล้งมีน้ำน้อย หน้าฝนทางค่อนข้างลำบากไม่แนะนำให้นำรถยนต์นั่งเข้าไป
การเดินทาง :ไปตามทางหลวงหมายเลข 3438 ประมาณ หลักกิโลเมตรที่ 46 เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 16 กิโลเมตร
เปิดให้เข้าชม : 08.30 17.30 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: 0 5651 1094 หรือ สำนักงานป่าไม้จังหวัด โทร. 0 5631 1009 

แหล่งท่องเทียวอำเภอทัพทัน

                                                                        วัดทัพทัน

                                                             สถานที่ตั้ง : อำเภอทัพทัน
สร้างขึ้นในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2440 ตามท้องถิ่นเรียกกันว่า วัดทัพทัน ซึ่งบริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่โจมตีของกองกำลังในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นวัดขนาดเล็กที่มีความร่มรื่น และห้องโถงรูปแบบดั้งเดิม สิ่งที่โดดเด่นภายในวัด คือ บานประตูโบสถ์อันงดงาม บานหนึ่งแกะเป็นรูปคนถือธง บานประตูอีกคู่หนึ่งแกะเป็นรูปเทวดาถือคันศรยืนบนพญานาค ภายในวิหารมีพระประธานปางมารวิชัยหล่อด้วยทองเหลือง ขนาดหน้าตัก 1.68 เมตร และพระพุทธบาทจำลองสร้างด้วยทองเหลือง
การเดินทาง :เข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3221 ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 19 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอทัพทัน 1 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชม: ช่วงระหว่าง 06.00 17.00 น. 
 

                                                                           เขาปฐวี
                                                              สถานที่ตั้ง : อำเภอทัพทัน
ตั้งอยู่ที่ตำบลตลุกดู่ เป็นเทือกเขาขนาดเล็กยาวประมาณ 750 เมตร สูง 253 เมตร มีลักษณะเป็นเทือกเขาหินที่เรียงซ้อนกันเป็นยอดค่อนข้างสูงชัน มีถ้ำขนาดเล็กและใหญ่อยู่เรียงรายโดยรอบประมาณ 30 ถ้ำ เช่นถ้ำประทุน ถ้ำบันได ถ้ำอ่าง ถ้ำช่องลม ถ้ำพุทธประวัติ ถ้ำปลาและถ้ำค้างคาวเป็นต้น พบเครื่องมือหินและโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณลานกว้างหน้าเขามีร่มไม้และฝูงลิงจำนวนมาก 
แหล่งทอผ้าพื้นเมืองบ้านโคกหม้อ

                                                                สถานที่ตั้ง : อำเภอทัพทัน
ชาวบ้านโคกหม้อเป็นชาวลาวครั้งที่อพยพมาจากเวียงจันทน์ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีฝีมือการทอผ้ามาก หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจการทำนาผู้หญิงในหมู่บ้านจะทอผ้ากัน ผ้าทอนี้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวลาวครั่งที่สืบทอดกันมายาวนาน ผ้าที่ทอจะเป็นผ้ามัดหมี่ต่อตีนจก ผ้ายกดอกลายเชิงแบบเก่า ลวดลายบนผ้าเป็นแบบโบราณ
การเดินทาง :จากอำเภอทัพทันไปตามทางหลวงหมายเลข 3013 ทางไปอำเภอสว่างอารมณ์ ประมาณ 10 กิโลเมตร แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 3456 ตรงไปมีป้ายบอกให้แยกซ้ายไปบ้านโคกหม้อ ประมาณ 4 กิโลเมตร กลุ่มทอผ้าอยู่ติดกับวัดโคกหม้อเปิดให้บริการ: 08.30 17.30 น.

แหล่งท่องเทียวอำเภอห้วยคต

                                                        น้ำตกไซเบอร์ หรือ น้ำตกหินลาด

                                                             สถานที่ตั้ง : อำเภอห้วยคต
อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยพิทักษ์ป่าไซเบอร์ เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้หมู่บ้านไซเบอร์ (บ้านซับแม่บือ) ตำบลคอกควาย อำเภอห้วยคต อยู่ห่างจากจังหวัด 86 กิโลเมตร น้ำตกนี้เกิดจากลำห้วยล่อยจ้อยที่ไหลมาจากภูเขาสูงของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทำให้เกิดน้ำตกขึ้นเป็นระยะ ๆ หลายชั้น น้ำตกส่วนที่อยู่ตอนบนเรียกว่าน้ำตกล่อยจ้อย บางแห่งตกจากที่สูงปะทะกับก้อนหินใหญ่ เรียกว่า น้ำตกหินลาด ข้างล่างเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่รับน้ำตกที่ตกลงมาไม่ขาดสาย บางแห่งไหลซอกซอนไปตามเกาะแก่งหินลงสู่เบื้องล่าง เป็นทางยาวสูงต่ำหลายชั้นที่มีสวยงามมาก จะมีน้ำมากช่วงเดือนกันยายน - ต้นเดือนพฤศจิกายน ลำห้วยล่อยจ้อยจะไหลไปรวมกับห้วยทับเสลา บริเวณโดยรอบเป็นป่าหวายและมีต้นไม้ร่มครึ้ม และในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอีกด้วย ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก : มีบ้านรับรอง 1 หลัง พักได้ 20-30 คน ไม่มีบริการด้านอาหาร ซึ่งผู้มาพักต้องเตรียมเสบียงอาหารมาเอง และต้องมีหนังสือรับรองจากฝ่ายจัดการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเพราะอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
การเดินทาง : จากทางหลวงหมายเลข 3282 หลักกิโลเมตรที่ 30 เลี้ยวเข้าทางลำลองประมาณ 7 กิโลเมตร เดินเท้าต่ออีก 900 เมตร สภาพทางเข้าเป็นทางลูกรังและมีหินคมตลอดเส้นทาง รวมทั้งต้องผ่านธารน้ำหลายจุด หน้าฝนรถเข้าไม่ได้เลย (สิงหาคม-ตุลาคม) ต้องใช้รถกระบะที่มีกำลังขับเคลื่อนดีหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ หากเดินทางโดยรถประจำทาง จากตลาดบ้านไร่นั่งสายบ้านไร่-คลองแห้ง มาลงที่บ้านทองหลางหลักกิโลเมตรที่ 19 ซึ่งสามารถหาเช่าสองแถวได้ที่นี่
เปิดให้เข้าชม: 09.00 17.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: โทร. 0 2561 4292-3 ต่อ 765 
 

                                                               น้ำพุร้อนบ้านสมอทอง
                                                             สถานที่ตั้ง : อำเภอห้วยคต
ตั้งอยู่ที่บ้านสมอทอง ตำบลคอกควาย ในโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดเล็กที่ผุดขึ้นมาผิวดิน เป็นน้ำใส มีกลิ่นกำมะถันฉุน มีความร้อนขนาดต้มไข่สุกได้ภายใน 5 นาที ไหลผ่านช่องเขาไปรวมกับน้ำในลำห้วยคอกควาย ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้เป็นบ่อน้ำพุร้อน จุดชมทิวทัศน์ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากอำเภอหนองฉางสู่อำเภอบ้านไร่ ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3282 สายบ้านไร่-ลานสัก ประมาณ 33 กิโลเมตร สังเกตเห็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่ทางขวามือตรงกลางหุบเขาพอดี เมื่อผ่านสะพานข้ามคลองไปได้สองสะพานจะมีทางแยกตรงทางโค้งเข้าสู่โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วไป 2 กิโลเมตร จะถึงบริเวณน้ำพุร้อนบ้านสมอทอง
เปิดให้เข้าชม : 08.00 18.00 น.
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง

                                           สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก อำเภอห้วยคต และอำเภอบ้านไร่ 
ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO)
ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ณ เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลระบำ มีพื้นที่ครอบคลุม 6 อำเภอ 3 จังหวัด คือ อำเภอบ้านไร่ อำเภอลานสัก อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีพื้นที่ 3,609,375 ไร่ หรือ 5,775 ตารางกิโลเมตร โดยมีการรวมพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเข้ามาด้วย ทำให้เป็นผืนป่าอนุรักษ์ต่อเนื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะอากาศที่ห้วยขาแข้งหากเป็นฤดูร้อนจะร้อนมาก ถ้าเป็นฤดูฝนจะมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน และมีฤดูหนาวสั้นมาก ห้วยขาแข้งได้เป็นมรดกโลกเพราะสภาพป่าของที่นี่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ประกอบด้วยป่าถึง 5 ใน 7 ชนิด ที่พบในเขตร้อนชื้น ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ก่อให้เกิดความหลากหลายของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ต่างๆ บางชนิดเป็นสัตว์ที่หายากใกล้จะสูญพันธุ์เช่น ควายป่า เลียงผา เสือดาว หมาใน ไก่ป่า นกยูงไทยและยังมีแมลงป่าพันธุ์ต่างๆ อีกมากมาย ปกติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทั่วไป เพราะพื้นที่นี้จัดเป็นเขตอนุรักษ์และมีความอ่อนไหวสูง ฉะนั้นการมีคนจำนวนมากเข้าไปอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความไม่สมดุลของระบบนิเวศได้

เปิดให้เข้าชม : 08.00 18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง 085 725 8433, 087 840 0316 

แหล่งท่องเทียวอำเภอบ้านไร่


                                                                         วัดเขาวง

                                                             สถานที่ตั้ง : อำเภอบ้านไร่
ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขา ลักษณะของวัดสร้างด้วยไม้สักและไม้มะค่า คนในพื้นที่เล่าว่าใช้ตัวไม้เก่าจากเรือนไทยมาจากอยุธยา ที่มีความประณีตและสวยงามมาก จากข้อมูลของอำเภอบ้านไร่แจ้งไว้ว่า ธรรมสถานถ้ำเขาวง เป็นสาขาที่ 13 ของวัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี จาก ทั้งหมด 19 สาขา อาทิ เชียงใหม่ อุ้มผาง อังกฤษ อินเดีย เป็นต้น วัดนี้สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2530 มีพื้นที่ทั้งหมด 200 ไร่ หรือ (320
,000 ตารางเมตร) พื้นที่โดยรอบเป็นภูเขาและป่าไม้ ขึ้นปกคลุมหนาแน่น
 สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวัดเขาวงนี้คือ ศาลาเอนกประสงค์ ลักษณะทรงไทยมี 4 ชั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทย รอบๆศาลาเป็นสระน้ำที่จะมองเห็นปลาว่ายวนรอบสระ ข้างกันจะเป็นดอกไม้ที่ประดับไว้อย่างสวยงาม ศาลาแห่งนี้ถูกสร้างจากไม้ที่ได้รับการบริจาคมาจากชาวบ้าน ซึ่งเป็นงานออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรมที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติไว้จนถึงปัจจุบัน ธรรมสถานถ้ำเขาวงแห่งนี้ จะจัดให้มีการฝึกอบรม ธรรมะฝึกสมาธิให้กับผู้มีจิตศรัทธาเดือนละครั้ง

การเดินทาง :จากตัวอำเภอบ้านไร่ไป วัดถ้ำเขาวงนั้น ตัวของวัดตั้งอยู่ในตำบลบ้านไร่อยู่ห่างจากอำเภอไป 12 กิโลเมตร ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 3011 ผ่านทางโค้งศาลเจ้าพ่อเขารักแล้วมาตัดกับสามแยกให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เขาวงประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงทางแยกเข้าไปประมาณ 300 เมตร
เปิดให้เข้าชม: ช่วงระหว่าง 08.00 17.00 น. 


                                                                 เมืองโบราณบ้านการุ้ง
                                                                สถานที่ตั้ง : อำเภอบ้านไร่
ตั้งอยู่ที่ตำบลวังหิน เป็นแหล่งชุมชนโบราณ สภาพเมืองเป็นรูปวงกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 800 เมตร เป็นคูเมืองชั้นเดียว คูน้ำขนาดกว้าง 20 เมตร ลึก 3 เมตร บริเวณคูติดถนนมีการขุดลอกคูน้ำใหม่ และมีน้ำขังตลอดปี คันดินกว้าง 6 เมตร ปัจจุบันเป็นที่ทำการของแขวงการทาง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบ ได้แก่ ระฆังหินพระ พุทธรูปปางเสด็จลงจากดาวดึงส์ เศษภาชนะดินเผา ขวานหิน เครื่องประดับ และซากเจดีย์อยู่ทางทิศใต้ของตัวเมืองไปประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นซากเจดีย์ก่อด้วยอิฐดินเผาขนาดใหญ่ ฐานเจดีย์กว้าง 7 เมตร ปัจจุบันด้านหน้าคูเมืองการุ้ง มีศาลเจ้าแม่การุ้งตั้งอยู่ริมทางหลวง เป็นที่เคารพสักะการะของประชาชนทั่วไป เมืองการุ้งได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478
การเดินทาง: ใช้ทางเส้นหลวงหมายเลข 333 สายหนองฉาง-บ้านไร่ ผ่านบ้านทุ่งนาทางแยกเขาตะพาบจนถึงบ้านการุ้ง ก่อนถึงอำเภอบ้านไร่ประมาณ 10 กิโลเมตร เมืองการุ้งอยู่บริเวณทางโค้ง ด้านซ้ายมือมีศาลเจ้าแม่การุ้งเห็นเด่นชัด ห่างจากตัวเมืองอุทัยธานีประมาณ 69 กิโลเมตร
เปิดให้เข้าชม: 08.30 - 17.30 น. 

สวนพฤกษศาสตร์

                                                                 สถานที่ตั้ง : อำเภอบ้านไร่
สวนพฤกษศาสตร์ อยู่เลยจากศูนย์วัฒนธรรมมาประมาณ 5 กิโลเมตร สภาพโดยรอบเป็นธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ใช้เวลาเดินเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง ในสวนปลูกไม้ท้องถิ่นที่มีประโยชน์และมีความหลากหลายของพันธุ์พืชเช่น สะเดาป่า นำผลและใบมาทำยาป้องกันแมลง ต้นสบู่ นำผลแก่มาอาบน้ำ สระผม ซักเสื้อผ้า รางจืด มีสรรพคุณแก้เมา บางอย่างก็มีพิษ เช่น ขนของต้นช้างร้อง มีฤทธิ์ทำให้คันหากโดนเข้าจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน ยาน่อง มียางที่เป็นพิษ พรานสมัยก่อนนำมาทาที่ปลายลูกดอกเพื่อใช้ล่าสัตว์ เป็นต้น
เปิดให้เข้าชม: ช่วงระหว่าง 08.30 18.00 น.

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง

                                          สถานที่ตั้ง : อำเภอลานสัก อำเภอห้วยคต และอำเภอบ้านไร่
 ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก (UNESCO)
ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก ระหว่างวันที่ 9-13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ณ เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลระบำ มีพื้นที่ครอบคลุม 6 อำเภอ 3 จังหวัด คือ อำเภอบ้านไร่ อำเภอลานสัก อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีพื้นที่ 3,609,375 ไร่ หรือ 5,775 ตารางกิโลเมตร โดยมีการรวมพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเข้ามาด้วย ทำให้เป็นผืนป่าอนุรักษ์ต่อเนื่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะอากาศที่ห้วยขาแข้งหากเป็นฤดูร้อนจะร้อนมาก ถ้าเป็นฤดูฝนจะมีฝนตกหนักตลอดทั้งวัน และมีฤดูหนาวสั้นมาก ห้วยขาแข้งได้เป็นมรดกโลกเพราะสภาพป่าของที่นี่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ ประกอบด้วยป่าถึง 5 ใน 7 ชนิด ที่พบในเขตร้อนชื้น ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ก่อให้เกิดความหลากหลายของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ต่างๆ บางชนิดเป็นสัตว์ที่หายากใกล้จะสูญพันธุ์เช่น ควายป่า เลียงผา เสือดาว หมาใน ไก่ป่า นกยูงไทยและยังมีแมลงป่าพันธุ์ต่างๆ อีกมากมาย ปกติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทั่วไป เพราะพื้นที่นี้จัดเป็นเขตอนุรักษ์และมีความอ่อนไหวสูง ฉะนั้นการมีคนจำนวนมากเข้าไปอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านความไม่สมดุลของระบบนิเวศได้
เปิดให้เข้าชม : 08.00 18.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง 085 725 8433, 087 840 0316

                                                                      น้ำตกผาร่มเย็น
                                                                สถานที่ตั้ง : อำเภอบ้านไร่
สามารถมองเห็นได้จากริมถนน เป็นสายน้ำสีขาวทิ้งตัวลงมาในป่าทึบอยู่เบื้องล่าง น้ำตกที่สวยที่สุดในจังหวัดอุทัยธานี มี 4 ชั้น สูงประมาณ 100 เมตร เป็นน้ำตก สายเล็กๆ บางๆ ตกลงมาเป็นละอองฟุ้งคล้าย สายฝนไหลผ่านเพิร์นและมอส ลงมาสู่แอ่งน้ำ ตลอดจนพรรณไม้ ต่างๆ บรรยากาศร่มรื่นเย็นชุ่มฉ่ำประทับใจเมื่อลงมาสู่แอ่งน้ำ
การเดินทาง :อยู่ในตำบลเจ้าวัด อำเภอบ้านไร่ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 14 กิโลเมตร จากสามแยกอำเภอบ้านไร่เลี้ยวไปตามทางหลวงหมายเลข 3282 ประมาณ 500 เมตร และเลี้ยวซ้ายเข้าทางลาดยางข้างปั๊มน้ำมันปตท. ตรงไปประมาณ 14 กิโลเมตร
เปิดให้บริการ : 08.30 17.30 น.


ศูนย์วัฒนธรรมชาวเขาบ้านอีมาด-อีทราย
สถานที่ตั้ง : อำเภอบ้านไร่
อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา จังหวัดอุทัยธานี ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลแก่นมะกรูด ถือว่าอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ชาวเขาที่อยู่ที่นี่เป็นชาวกะเหรี่ยง มีชีวิตที่สงบและเรียบง่าย และยังคงเคร่งครัดในประเพณีดั้งเดิม งานประเพณีที่น่าสนใจของที่นี่ เช่น งานไหว้เจดีย์ ซึ่งจะมีการรำวงรำดาบ และงานไหว้ต้นโพธิ์ ฯลฯ ญาติพี่น้องที่แยกย้ายจะกลับมารวมตัวกัน ประเพณีทั้งสองนี้จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี กำหนดวันจัดงานจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของท้องถิ่น เช่นเก็บเกี่ยวผลผลิตในท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว
และที่สำคัญหมู่บ้านนี้มีข้อห้ามในการเล่นการพนัน และดื่มสุรา ผู้มาเยือนสามารถพักค้างคืนที่บ้านชาวกะเหรี่ยง ที่หมู่บ้านเจ้าวัดยางแดง หรือบ้านพักในศูนย์วัฒนธรรมซึ่งในบริเวณมีพิพิธภัณฑ์ชาวเขาอยู่ด้วย และมีงานหัตถกรรม ผ้าทอพื้นเมือง เครื่องจักสานไม้ไผ่ และสินค้าเกษตรตามฤดูกาลมาจำหน่าย เช่น พริกแห้ง
การเดินทาง:จากอำเภอบ้านไร่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3011 ประมาณ 20 กิโลเมตร สุดถนนลาดยาง และไปต่อตามถนนลูกรังอัดอีก 1 กิโลเมตร
เปิดให้บริการ: 08.30 17.30 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 0 5652 0723, 0 5651 2026 

แหล่งท่องเทียวอำเภอเมือง



                                                          วัดสังกัสรัตนคีรีเขาสะแกกรัง
                                                            สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
จากบริเวณลานวัดสังกัสรัตนคีรีมีบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขาสะแกกรัง หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 3220 จะพบทางแยกขึ้นเขาเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวบริเวณสนามกีฬาจังหวัดไปตามทางขึ้นสู่ยอดเขา จากบนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองอุทัยธานีได้กว้างขวาง เป็นที่ตั้งของมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ซึ่งย้ายมาจากวัดจันทาราม สร้างเมื่อ พ.ศ. 2448 ด้านหน้ามีระฆังใบใหญ่ที่พระปลัดใจและชาวอุทัยธานีร่วมกันสร้างเมื่อ พ.ศ. 2443 ถือกันว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ไปเที่ยวอุทัยธานีแล้วไม่ได้ขึ้นไปตีระฆังใบนี้ก็เท่ากับไม่ได้ไปเที่ยวอุทัยธานี ใกล้กับมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังมีพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ แห่งรัชกาลที่ 1 ซึ่งมีพระนามเดิมว่านายทองดี รับราชการตำแหน่งพระอักษรสุนทรศาสตร์ เสมียนตรากรมมหาดไทย และต่อมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์ ครั้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี (พระนามเดิมนายทองด้วง) ได้สถาปนาพระอัฐิพระบิดาเป็นสมเด็จพระชนกาธิบดี เมื่อปี พ.ศ. 2338 พระบรมรูปของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกนาถ เป็นรูปหล่อขนาดสองเท่าขององค์จริง ประทับนั่งบนแท่นพระหัตถ์ซ้ายถือดาบประจำตำแหน่งเจ้าพระยาจักรี ทั้งฝักวางบนพระเพลาซ้าย และทรงวางพระหัตถ์ขวาบนพระเพลาขวา ด้านขวามือมีพานวางพระมาลาเส้าสูง ไม่มียี่ก่า (ขนนก) สวมพระบาทด้วยรองเท้าแตะไม่หุ้มส้นพระบาท
มีพิธีถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์แห่งนี้ ในวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งตรงกับช่วงที่ดอกสุพรรณิการ์ หรือฝ้ายคำ ดอกไม้ประจำจังหวัดอุทัยธานีบานสะพรั่งอยู่ทั่วไปบนเขาสะแกกรัง เลยพระราชานุสาวรีย์ไปทางป่าหลังเขาประมาณ 200 เมตร จะพบหมุดแผนที่โลก ซึ่งใช้ในการสำรวจแผนที่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475
เปิดให้เข้าชม: 08.00 - 17.00 น.

                                                              
                                                              พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์

                                                               สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย วัสดุสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก หรือ 150 เซนติเมตร ศิลปะสมัยสุโขทัย เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวอุทัยธานี ตั้งอยู่ที่วัดสังกัสรัตนคีรี ประชาชนชาวอุทัยธานีจะร่วมกันจัดงานไหว้พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ประจำทุกปี คือ ประเพณีตักบาตรเทโว 


วัดท่าซุง หรือ วัดจันทาราม

                                                                 สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
วัดท่าซุง ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลน้ำซึม เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัด "จัน" ซึ่งเป็นชื่อของเจ้าอาวาสองค์หนึ่ง ต่อมาวัดจันทารามได้กลายเป็นวัดร้างไปจนถึงปี พ.ศ. 2332 หลวงพ่อใหญ่ได้มาปักกลดที่วัดนี้ ชาวบ้านจึงขอให้ท่านเป็นเจ้าอาวาสและได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ เดิมบริเวณวัดคือ ธรรมาสน์ ที่หลวงพ่อใหญ่สร้างขึ้นอยู่ด้านตรงข้ามวัด ต่อมาภายหลังมีการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ มากมาย โดยพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พระเถระที่มีชื่อเสียงเป็นบริเวณพุทธาวาสที่น่าชมมาก พระอุโบสถใหม่สร้างสวยงามภาย ในประดับและตกแต่งอย่างวิจิตร บานหน้าต่างและประตูด้านในเขียนภาพเทวดาโดยจิตรกรฝีมือดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินมาตัดลูกนิมิตพระอุโบสถแห่งนี้ บริเวณโดยรอบสร้างกำแพงแก้วและมีรูปหล่อหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า อยู่มุมกำแพงด้านหน้า ยังมีศาลาอยู่หลายหลังสำหรับใช้เป็นสถานที่ฝึกสมาธิและมีที่พักให้ด้วย
การเดินทาง :จากเมืองไปตามทางสาย 3265 มุ่งตรงไปทางแพข้ามฟาก อำเภอมโนรมย์ ประมาณ 12 กิโลเมตร
เปิดให้เข้าชม: ช่วงระหว่าง 09.00 - 11.45 น. และ 14.00 - 16.00 น.



วัดธรรมโฆษก

                                                                 สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
วัดธรรมโฆษกหรือเรียกอีกอย่างว่าวัดโรงโค เป็นวัดที่สร้างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ในเขตถนนศรีอุทัย ตำบลอุทัยใหม่ ใกล้ตลาดเทศบาล เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒนสัตยาของข้าราชการเมืองอุทัยธานี สถานที่น่าสนใจที่สุดภายในวัดคือ โบสถ์และวิหารซึ่งมีพระปรางค์ ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมืองดงามและจัดว่าสวยงามที่สุดในอุทัยธานี สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยอยุธยาตอนปลายที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ส่วนวิหารได้สร้างยกพื้นสูงกว่าโบสถ์ หน้าบันเป็นรูปช้างสามเศียร ภายในมีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งมีประมาณ 20 องค์ จัดเรียงอย่างมีระเบียบ บนหน้าต่างด้านนอกมีลายปูนปั้นเป็นเรื่องรามเกียรติ์ประดับเป็นกรอบ ประตูวิหารเป็นไม้จำหลักลายดอกไม้ทาสีแดงงดงามมาก

เปิดให้เข้าชม: 06.00 - 17.00 น.